วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

กล้วยไม้รุ่น เขากวางแดง ฉัตรดา ชิเนนทร



ประเภทพันธุ์ไม้ : พันธุ์แท้
ประเภทสินค้า : สินค้าเด่น
ราคา : 550 บาท
ค่าจัดส่งEMS : กรณีสั่งซื้อ 1-2 ต้น คิดค่าจัดส่ง 80 บาท , 3 ต้นขึ้นไป คิดค่าจัดส่ง 100 บาท

     ไม้รุ่น เขากวางแดง ฉัตรดา ชิเนนทร ชุดนี้เป็นกล้วยไม้รุ่นอีกชุดที่ทยอยให้ดอกกันแล้วครับ ชุดนี้คัดต้นสวย ๆ แดง ๆ แบ่งจำหน่ายโดยเฉพาะครับ รับประกันว่าแดงทุกต้นร้อยเปอร์เซ็น สำหรับ เขากวางแดง ฉัตรดา ชิเนนทร นั้น เป็นที่ยอมรับจากนักกล้วยไม้อเมริกัน ซึ่งได้รับการการันตีย์โดย ดร. เดวิด แอล โกฟ ท่านเป็นนักกล้วยไม้ของ สมาคมกล้วยไม้ AOS เขากวางแดง ที่ถูกค้นพบครั้งแรกนั้น ได้ชื่อมาจากเจ้าของที่พบในครานั้นคือคุณ ฉัตรดา และห่างหายไปนานนับสิบปีก็มีการค้นพบ เขากวางแดง อีกต้น ซึ่งอยู่ที่คุณชิเนนทรนั่นเองครับ คุณชิเนนทรได้นำ เขากวางแดง ต้น ฉัตรดา และ ต้น ชิเนนทร ผสมเข้าด้วยกัน และกลายมาเป็น เขากวางแดง ฟอร์มสวย ๆ ที่เห็นในเว็บของเรานี้แหละครับ ลูกของต้น ฉัตรดา และ ต้นชิเนนทร ได้รับการยกย่องว่า เป็น เขากวางแดง พันธุ์แท้ ซึ่งหมายถึง ไม่มีต้นไดเลยหลุดออกมาเป็นเขากวางลายเหมือนเขากวางป่า ทุกต้นแดงหมด บางต้นก็แดงจนดำทึบไปเลยก็มีครับ และชุดที่จำหน่ายอยู่นี้ก็เป็น ลูก ๆ จากต้นสวย ๆ ที่ คัดฟอร์มมาผสมอีกครั้งครับ ท่านไดชอบ เขากวางแดง พันธุ์แท้ จากต้นตำรับแท้ ๆ อย่าพลาดเชียวนะครับ
     เขากวางแดง ชุดนี้เป็นกล้วยไม้รุ่นแล้วครับ ขนาดต้นสวยอวบมาก รับประกันว่า เขากวางแดง ของเราให้ดอกที่แดงพันธุ์แท้สีแดงสดทุกต้น หรือ แดงจนเป็นสีม่วงก่ำก็มีครับ ชุดนี้แนะพิเศษสุด ๆ เลยครับ หากท่านยังไม่มั่นใจ สามารถโทรเข้ามาสอบถามกับเราได้โดยตรงตามเบอร์ติดต่อด้านล่างนี้ได้เลยครับ ผมรับประกัน เขากวางแดง ของเรานั่นจากต้นตำรับ 100% ครับ

หากท่านสนใจในรายการกล้วยไม้ของเรา ท่านสามารถติดต่อหาเราได้โดย 3 ช่องทางด้านล่างต่อไปนี้
1. คลิ๊กไปยังหน้า contact เพื่อกรอกรายละเอียดสินค้าส่งเข้าหาเราโดยตรง
2. ท่านสามารถส่งอีเมล์หาเราได้ที่ orchidtropical.sale@gmail.com พร้อมส่งรายละเอียดสินค้าที่ท่านสนใจ
3. ติดต่อทางโทรศัพท์ที่ พีรยุทธ์ Tel : 086-3572-407
***กรณีไม้นิ้ว ไม้รุ่น และไม้แบ่งลำ ไม่ว่าจะสั่งซื้อเพียง 1 ต้น เล็กหรือใหญ่ ทางเราก็ยินดีจัดส่งให้ครับ***
***กรณีไม้ขวด สั่งซื้อเพียง 1 ขวด ทางเราก็ยินดีจัดส่งให้เช่นกันครับ ! ***



http://www.orchidtropical.com/itemid38.php

กล้วยไม้นิ้วช้างแดงสีเข้ม




ประเภทพันธุ์ไม้ : พันธุ์แท้
ประเภทสินค้า : สินค้าแนะนำ
ราคา : 90 บาท
ค่าจัดส่งEMS : ค่าจัดส่ง 1-5 นิ้ว 80 บาท 5 นิ้วขึ้นไปคิดค่าจัดส่ง 100 บาท

      กล้วยไม้ช้างแดง เป็นกล้วยไม้ไทยอีกชนิดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ในอดีตเป็นกล้วยไม้หายากในธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ช้างแดงต่อๆกันมาเป็นเวลานานหลายสิบปี
      ซึ่งจากประสบการณ์ในวงการกล้วยไม้ของทีมงาน ออร์คิดทรอปปิคอล สังเกตว่าช้างแดงในยุคหลังเป็นลูกไม้ที่มีหลายๆเบอร์เป็นกล้วยไม้ที่มีสายเลือดชิดกันซึ่งทางผู้ผสมอาจไม่ทร าบว่าต้นพ่อแม่พันธุ์เป็นช้างแดงที่เมื่อสืบประวัติย้อนขึ้นไปอาจเป็นช้างแดงที่มีพ่อแม่ หรือ ต้นสายเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำต้นลูกหลานมาผสมกัน ก็มักจะเลือกดูต้นที่ดอกสวยเป็นพ่อแม่ซึ่งเมื่อผสมได้ลูกมามักจะได้ ฝักที่มีเมล็ดน้อย เพาะขยายพันธุ์ได้ไม่มากนักในแต่ละครั้ง ซึ่งเมื่อเลี้ยงจนออกดอกก็อาจให้ลูกที่มีความแตกต่างของสีและรูปทรงได้หลากหลาย หรือมีสีอ่อนกว่าเป็นแบบแดงใส ซึ่งการป้องกันการผลิตต้นกล้วยไม้ช้างแดงที่มีสายเลือดชิดกัน ทางทีมงาน จึงพยายามใช้ต้นพ่อแม่ที่ข้ามสายกันไกลๆเพื่อให้ลูกไม้ที่มีคุณภาพ
     กล้วยไม้นิ้วช้างแดง ชุดนี้เป็น ลูกช้างแดง สีเข้ม ต้นพ่อแม่พันธุ์ เป็นช้างแดงช่อสวย สีเข้ม สายพันธุ์ ของพลโท วิสูตร นายกสมาคมกล้วยไม้ลพบุรี ผสมและพัฒนาสายพันธุ์ กับช้างแดงช่อยาว จากสวนจริญญาออร์คิด ซึ่งการผสมครั้งนี้ได้คัดต้นที่ดอกสวยและมีสีเข้มที่สุดในชุดมาใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ลูกไม้ที่ได้มีลักษณะ ใบแคบ ยาว ที่คอใบมีสีแดงเข้ม
     ซึ่งจากลักษณะใบแคบยาวทางสวนคาดว่า อาจมีได้ลูกไม้ที่มีก้านช่อดอกยาวดี สีจัดอีก ชุดหนึ่งนอกเหนือจากช้างแดงชุดอื่นๆที่มีผลิตกันอยู่ในทุกวันนี้ ครับ


หากท่านสนใจในรายการกล้วยไม้ของเรา ท่านสามารถติดต่อหาเราได้โดย 3 ช่องทางด้านล่างต่อไปนี้
1. คลิ๊กไปยังหน้า contact เพื่อกรอกรายละเอียดสินค้าส่งเข้าหาเราโดยตรง
2. ท่านสามารถส่งอีเมล์หาเราได้ที่ orchidtropical.sale@gmail.com พร้อมส่งรายละเอียดสินค้าที่ท่านสนใจ
3. ติดต่อทางโทรศัพท์ที่ พีรยุทธ์ Tel : 086-3572-407
***กรณีไม้นิ้ว ไม้รุ่น และไม้แบ่งลำ ไม่ว่าจะสั่งซื้อเพียง 1 ต้น เล็กหรือใหญ่ ทางเราก็ยินดีจัดส่งให้ครับ***
***กรณีไม้ขวด สั่งซื้อเพียง 1 ขวด ทางเราก็ยินดีจัดส่งให้เช่นกันครับ ! ***


http://www.orchidtropical.com/itemid34.php

ไม้นิ้วไอยเรศสีเข้ม ไอยเรศแดง



ประเภทพันธุ์ไม้ : กล้วยไม้พันธุ์แท้
ประเภทสินค้า : สินค้าแนะนำ
ราคา : 100 บาท
ค่าจัดส่งEMS : สั่งซื้อ 1-5 นิ้ว คิดค่าจัดส่ง 80 บาท หากสั่งซื้อมากกว่า 5 ต้นขึ้นไปคิดค่าจัดส่งที่ 100 บาท

      ไอยเรศชุดนี้ เป็นไอยเรศ ช่อดี สีจัด จากแหล่งธรรมชาติในรัฐฉาน ประเทศ พม่า จุดเด่นคือลายสีชมพูบานเย็นเข้ม จนอาจเรียกได้ว่าเป็นไอยเรศแดงได้ ซึ่งเป้นลักษณะเด่นที่ไม่ค่อยพบได้บ่อยนัก ส่วนใหญ่ไอยเรศที่พบทางภาคเหนือของไทย ลงมาทางแถบตะวันตกบริเวณเทอกเขาตระนาวศรี ทางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลยเข้าไปถึงทางฝั่งประเทศ ลาว หรือไอยเรศที่พบเรื่อยลงไปทางใต้ มักจะมีดอกสีอ่อนสีขาว หรือสีขาวอมชมพู มีลายจางๆ หรือไม่มีลาย มีกลีบปากสีชมพูอ่อน หรือ เข้มแตกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิด ซึ่งเท่าที่พบมามีเพียงไม่ก็แหล่งที่พบไอยเรศที่มี ลายบั้งสีเข้มชัดเจน เมื่อมองดูช่อดอกจากระยะไกลทำให้ดูเหมือนว่าเป็น สีแดงทั้งช่อ
     กล้วยไม้ต้นนี้ คุณพงษ์ปกรณ์ โรจนไพบูลย์ นักปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ไทยที่เชี่ยวชาญท่านหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเจ้าของต้นพ่อแม่พันธุ์ที่ได้มา จากแหล่งดังกล่าว โดยแรกเริ่มได้มาหลายต้น แต่เมื่อออกดอก ได้พบว่ามีต้นที่สีดีลายชัดเจน ปะปนกับต้นที่โทนสีปานกลาง จึงได้คัดแยกต้นที่มีลักษณะดีออกมาและ ได้ผสมและนำไปเพาะขยายพันธุ์กล้วยไม้ไอยเรศ สีเข้มต้นนี้ ตั้งแต่ช่วงปี๒๕๕o โดยคุณเพรช ซึ่งเป็นเพื่อนกับเจ้าของต้นกล้วยไม้แม่พันธุ์ และเป็นสมาชิกผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ของสมาคมกล้วยไม้เชียงใหม่อีกท่าน จนได้เป็นกล้วยไม้ขวดและนำออกปลูกเลี้ยงอนุบาลเป็นกล้วยไม้นิ้ว โดยไม้นิ้วชุดนี้ได้จากต้นที่สีเข้มจัดที่สุด เท่าที่เคยพบมาในวงการประกวด ของเชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าของต้นแม่พันธุ์และผู้ผสม คาดหวังว่าน่าจะได้ลูกไม้ที่ได้ลักษณะถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ดีด้านสีของดอกมาจากต้นแม่ และทางผู้ผสมได้ให้ความเห็นว่า นี่อาจเป็นการเริ่มต้นพัฒนาไอยเรศ ให้มีสีแดงทั้งดอกเช่นเดียวกับ ช้างแดง ที่ได้มีการผสมพัฒนาสายพันธุ์มานานจนได้กล้วยไม้สกุลช้างดอกสีแดงเข้มที่มีสายพันธุ์คงที่ไม่แปรผัน จนเป็นที่ยอมรับของนักกล้วยไม้ทั่วโลก


หากท่านสนใจในรายการกล้วยไม้ของเรา ท่านสามารถติดต่อหาเราได้โดย 3 ช่องทางด้านล่างต่อไปนี้
1. คลิ๊กไปยังหน้า contact เพื่อกรอกรายละเอียดสินค้าส่งเข้าหาเราโดยตรง
2. ท่านสามารถส่งอีเมล์หาเราได้ที่ orchidtropical.sale@gmail.com พร้อมส่งรายละเอียดสินค้าที่ท่านสนใจ
3. ติดต่อทางโทรศัพท์ที่ พีรยุทธ์ Tel : 086-3572-407
***กรณีไม้นิ้ว ไม้รุ่น และไม้แบ่งลำ ไม่ว่าจะสั่งซื้อเพียง 1 ต้น เล็กหรือใหญ่ ทางเราก็ยินดีจัดส่งให้ครับ***
***กรณีไม้ขวด สั่งซื้อเพียง 1 ขวด ทางเราก็ยินดีจัดส่งให้เช่นกันครับ ! ***



http://www.orchidtropical.com/itemid60.php

กุหลาบสื่อรัก

ตำนาน ดอกกุหลาบ กับความหมายดี ๆ



ดอกกุหลาบ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
          เคยได้ยินคำเปรียบเปรยไหมที่ว่า ผู้หญิงสวยแต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมก็เปรียบได้ดัง "ดอกกุหลาบ" เพราะดอกกุหลาบนั้น แม้จะมีรูปร่างภายนอกที่สวยงามร วมถึงกลิ่นที่หอมชวนดม แต่มันก็มีหนามแหลม หากไม่ระวังอาจโดนบาดได้ง่าย ๆ

          กุหลาบนั้นมีชื่อสามัญว่า "Rose" ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า "Rosa hybrids" และมีชื่อวงศ์ว่า "Rosaceae" ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ลักษณะของกุหลาบนั้นมีทั้งไม้พุ่มและไม้เลื้อย ลำต้นและกิ่งจะมีหนาม ส่วนดอกของกุหลาบจะมีทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีไม่ต่ำกว่า 5 กลีบ กุหลาบนั้นมีกลิ่นหอมชวนดม และมีหลายสี เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ อีกทั้งยังมีหลายชนิดด้วย

          ซึ่งคำว่ากุหลาบนั้นมาจากคำว่า "คุล" ที่ในภาษาเปอร์เซียแปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" โดยในภาษาฮินดีก็มีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" ก็หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก


ดอกกุหลาบ

ดอกกุหลาบ

          โดยกุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่ก่อนกุหลาบนั้นเป็นกุหลาบป่าและมีรูปร่างไม่เหมือนในทุกวันนี้ แต่เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์จนขยายเป็นพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย

          ตามประวัติศาสตร์เล่าว่ากุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ์ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทั้งของขวัญ และเป็นดอกไม้สำหรับทำมาลัยต้อนรับแขก รวมถึงเป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่าง ๆ แถมยังเป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย

          และเมื่อเอ่ยถึงดอกกุหลาบแล้ว หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงเรื่องความรัก เพราะกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความโรแมนติก โดยมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม

          แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านเราตอนไหน แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ว่าเห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก็ได้มีการกล่าวถึงกุหลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกุหลาบของไทยที่เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มาก แต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาปให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา

          โดยดอกกุหลาบนั้นสามารถสื่อความหมายได้หลายอย่าง อาทิ
ดอกกุหลาบ 

 สีกุหลาบสื่อความหมาย

           สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปราถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ

          สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์

          สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง

          สีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ

          สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

          สีส้ม สื่อความหมายถึง ฉันรักเธอเหมือนเดิม

ดอกกุหลาบ
จำนวนกุหลาบสื่อความหมาย

          1 ดอก รักแรกพบ
          2 ดอก แสดงความรู้สึกที่ดีให้กัน
          3 ดอก ฉันรักเธอ
          7 ดอก คุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์
          9 ดอก เราสองคนจะรักกันตลอดไป
          10 ดอก คุณเป็นคนที่ดีเลิศ
          11 ดอก คุณเป็นสมบัติชิ้นที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน
          12 ดอก ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว
          13 ดอก เพื่อนแท้เสมอ
          15 ดอก ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ
          20 ดอก ฉันมีความจริงใจต่อเธอ
          21 ดอก ชีวิตินี้ฉันมอบเพื่อเธอ
          36 ดอก ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน
          40 ดอก ความรักของฉันเป็นรักแท้
          99 ดอก ฉันรักเธอจนวันตาย
          100 ดอก ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
          101 ดอก ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
          108 ดอก คุณจะแต่งงานกับฉันไหม
          999 ดอก ฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย
 ดอกกุหลาบ

ความหมายอื่น

           กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) "เธอช่างมีเสน่ห์งามเหลือเกิน"

           กุหลาบตูมสีแดง "ฉันเริ่มรักเธอแล้วจ้ะ"

           กุหลาบบานสีแดง "ฉันรักเธอเข้าแล้ว"

           กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว"

           กุหลาบตูมสีขาว "เธอช่างไร้เดียงสาน่าทะนุถนอมเหลือเกิน ฉันรักเธอ"

           กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว "เสน่ห์ของเธอมันเริ่มลดน้อยถอยลงแล้วนะจ๊ะ"

          กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย

          และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจของดอกกุหลาบ
 

ลิงผู้โชคดี


วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของ "ลิงผู้โชคดี"


มีใครเคยเจอแบบนี้ไหมครับ เวลาท่านทำอะไรสักอย่างจนสำเร็จ ประสบผลงดงาม แล้วมีคนมาบอกว่า ที่ท่านทำได้นั้น เป็นเพราะ "โชคดี"

ใครเจอแบบนี้ย่อมต้อง "เคือง" แน่นอน ไม่เคืองได้ไงครับ อุตส่าห์ทำแทบตาย มานะบากบั่นกว่าจะสำเร็จ ดันมาเหมาว่าโชคดีซะยังงั้น พูดเหมือนกับเราไม่มีสติปัญญาอะไรเลย

อย่าว่าแต่คนเดินดินอย่างเราๆท่านๆเลยครับ ต่อให้คนเก่งระดับโลกก็เจอแบบนี้เหมือนกัน ผมมีตัวอย่างเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นมาเล่าให้ฟัง

อันว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น เอาเฉพาะในสหรัฐฯ มีนักลงทุนระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จมากมาย ที่อยู่ในลำดับต้นๆของหอเกียรติยศก็อย่างเช่น เบน เกรแฮม, วอร์เรน บัฟเฟตต์, ชาร์ลี มังเจอร์ , จอห์น เมย์นาร์ด เคย์นส์ ฯลฯ

ถ้าท่านไม่คุ้นหูหรือไม่รู้จักก็อย่าแปลกใจนะครับ คนทั่วโลกส่วนใหญ่จะรู้จักก็แต่เฉพาะคุณปู่ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" เท่านั้น เพราะแกเป็นคนรวยอันดับสามของโลกในยุคปัจจุบัน

บัฟเฟตต์ประสบความสำเร็จสูงสุด โดยได้ผลตอบแทนเฉลี่ยจากการลงทุนเกือบ 30% ต่อปี จนทำให้ตัวแก "รวยมหารวย"

ทว่า..แม้คนทั่วโลกจะนับถือในความสามารถของบัฟเฟตต์ กลับมีทฤษฎีในตำราการลงทุนอันหนึ่งชี้ว่า ที่บัฟเฟตต์และสุดยอดนักลงทุนอีกหลายๆ คนประสบความสำเร็จได้ เป็นเพราะพวกเขา "โชคดี"

หนึ่งในคนที่คิดเช่นนี้ คือ เบอร์ตัน มัลคีล อาจารย์ชื่อดังจากมหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน เขาอธิบายไว้ในหนังสือของตัวเอง ชื่อ "A Random Walk on Wall Street" โดยเปรียบเทียบความสำเร็จของสุดยอดนักลงทุนเหล่านั้นกับ "การแข่งขันโยนเหรียญ" ดังนี้ ..

สมมุติเราเอาคน 1,000 คนมาโยนเหรียญแข่งกัน ใครโยนออกหัวถือว่าเป็นผู้ชนะและได้เข้ารอบต่อไป ส่วนคนที่โยนออกก้อยถือว่าตกรอบ

ด้วยหลักสถิติ โอกาสที่จะออกหัว-ก้อยนั้น อยู่ที่ 50-50 ดังนั้น ใน 1,000 คนที่โยนเหรียญ 500 คนจะโยนได้หัว อีก 500 คนจะโยนได้ก้อย

ในรอบแรก 500 คนที่โยนได้หัวจึงเป็นผู้ชนะ และผ่านเข้าไปสู่รอบที่ 2 ซึ่งด้วยกฏแห่งความน่าจะเป็น คนครึ่งหนึ่งก็จะโยนได้หัว และอีกครึ่งหนึ่งจะโยนได้ก้อย จึงได้ผู้โชคดีอีก 250 คน เพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไป เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

จาก 250 จึงเหลือแค่ 125 คน ในรอบที่ 3, เหลือ 63 คนในรอบที่ 4, เหลือ 31 คนในรอบที่ 5, เหลือ 16 คนในรอบที่ 6 และในรอบสุดท้าย จะเหลือแค่ "8 คน" ที่จะเป็นผู้ชนะ (หรือจะโยนต่อให้เหลือคนเดียวก็ยังได้)

ในที่สุด คนทั้ง 8 คนนั้นจึงกลายเป็น "ผู้เชี่ยวชาญในการโยนเหรียญ" ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ได้ใช้ความ "เชี่ยวชาญ" อะไรเลย เป็นเพียงเพราะ "โชคช่วย" ล้วนๆ

สิ่งที่ทฤษฎีนี้พยายามบอกก็คือ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นเป็นเวลาหลายสิบปีติดต่อกัน อันที่จริงแล้วก็เป็นเพราะ "โชคดี" หาใช่ความสามารถอะไรไม่ หากแต่เป็นการโชคดีซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนผู้ชนะในเกมโยนเหรียญนั่นแล!!

อย่างไรก็ตาม มีนักวิชาการอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่เชื่อในทฤษฎีนี้ โดยเปรียบเทียบให้เห็นว่า การอ้างว่าความสำเร็จของยอดนักลงทุนทั้งหลายเป็นเพราะ "โชค" ก็เหมือนกับบอกว่า ถ้าเราเอาผ้าผูกตาลิงสักตัว แล้วให้ลิงตัวนั้นใช้นิ้วจิ้มลงบน keyboard ไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้ว ลิงตัวนั้นอาจจะ "บังเอิญ" พิมพ์วรรณกรรม "Hamlet" ออกมาได้ (Hamlet เป็นวรรณกรรมระดับตำนานจากปลายปากกาของ วิลเลียม เชคสเปียร์)

ท่านว่าน่าเชื่อไหมล่ะครับ?

เราต้องไม่ลืมว่า การเลือกหุ้นของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาศึกษาข้อมูลมากมาย อ่าน annual report นับพันๆเล่ม คุยกับผู้บริหารหลายร้อยคน กว่าจะลงทุนในบริษัทสักบริษัท

บัฟเฟตต์ค้นคว้าตลอดชีวิต กลั่นออกมาเป็นสูตรสำเร็จในการลงทุนของตัวเอง ซึ่งเป็นคนละเรื่องเลยกับการ "แข่งโยนเหรียญ" ที่ไม่ได้ใช้ฝีมือใดๆทั้งสิ้น

เวลาเราทำอะไรสำเร็จอย่างต่อเนื่อง บรรดาคนขี้เกียจมากมายที่ใจไม่กว้าง มักเกิดอาการ "อิจฉาริษยา" หาว่าเราทำได้เพราะ "โชคช่วย" บ้างก็ว่า "ก็เอ็งมันโชคดีนี่หว่า"

ใครเจอเช่นนี้จงอย่าไปสนใจ ตัวเราเองย่อมรู้ดีว่ากว่าจะได้อะไรมามันยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน ไม่เหมือนคนที่ไม่ทำอะไร เอาแต่นั่งเฉยๆแล้วว่าคนอื่น คนเช่นนี้ คงได้แต่นั่งรอคอย เพราะไม่เคยไขว่คว้าอะไร เห็นใครทำอะไรได้ก็อิจฉาไปวันๆ

หากว่าความสำเร็จที่เราได้รับ มาจาก "โชค" อย่างที่เขาว่า "โชค" ที่ว่านั้นย่อมไม่ตกไปถึงพวกชอบนินทา แต่มันย่อมจะมุ่งหน้ามาหาคนที่มีความวิริยะอุตสาหะ

เขาอาจคิดว่าเราเป็นแค่ "ลิง" แต่ถ้าเราเป็น "ของจริง" ก็ไม่ต้องกลัวอะไรครับ

อ้อ..ก่อนจบ บอกนิดหนึ่งว่า เรื่องราวที่ยกมาเล่านี่ ผมเอามาจากหนังสือ "How to Think like Benjamin Graham and Invest like Warren Buffett" เป็นคัมภีร์การลงทุนที่ "เจ๋ง" และ "แน่น" มากๆ

ตอนนี้ ตำราเล่มนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว โดยตัวผมเอง ชัชวนันท์ "แฟนพันธุ์แท้สามก๊ก" แปลคู่กับคุณโอฬาร ภัทรกอบกิตติ์ "แฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นไทย" คาดว่าจะวางขายเร็วๆ นี้ ใครสนใจซื้อได้ที่ซีเอ็ดทุกสาขา รับรองว่าอ่านแล้วเก่งขึ้นอีกเย๊อะ!!! :)

http://cheechud.blogspot.com/2010/08/blog-post.html

สงครามโค้ก vs เป๊ปซี่


วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สงคราม "โค้ก vs เป๊ปซี่": อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร (จบ)


คราวที่แล้วได้กล่าวไว้ ถึงตอนที่ โรเบอร์โต้ กอยซูเอต้า CEO ในตำนานของ โคคา-โคล่า ตัดสินใจปรับสูตรของน้ำดำชื่อก้องโลกชนิดนี้เสียใหม่ และนำออกขายต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก ในนามของ "New Coke" หรือ "โค้กใหม่"

อันว่าโค้กใหม่นี้ ได้รับการปรับรสชาติให้ "หวาน" ขึ้น และลดความ "เข้มข้น" ลงอีกนิด เพื่อ "เอาอย่าง" เป๊ปซี่ ที่พิสูจน์แล้วจาก Sip Test ว่าผู้บริโภคชอบมากกว่า

หลังปรับรสชาติจนเข้าที่ บ.โคคา-โคล่า ได้ทำ Sip Test อีกครั้ง และผลที่ได้ทำให้ได้เฮกันลั่นทั้งบริษัท เมื่อพบว่า ผู้บริโภค 6-8% ชอบ "New Coke" มากกว่า "เป๊ปซี่" เสียอีก

นั่นเท่ากับว่า การปรับรสชาติครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น น่าจะสร้างความฮือฮาให้กับตลาด และคงจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ทว่า สุดท้ายแล้ว ผลจากการ "เปลี่ยนตัวเอง" ครั้งนี้ ลงเอยอย่างไรนะหรือ?

"เละ" ครับ!!

หลังจาก "โค้กใหม่" ถูก introduced สู่ตลาด สิ่งที่ได้รับหาใช่ "คำชม" ไม่ มันคือ "คำด่า" ล้วนๆ!!

ภายในไม่กี่วันหลังออกสู่ตลาด "New Coke" ถูกผู้บริโภคโทรมาด่าสายแทบไหม้ และเกิดการประท้วงขึ้นในจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้ บริษัท โคคาโคล่า ต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤตทันที!!

ถามว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งที่จาก Sip Test ก็เห็นๆ อยู่ ว่าคนส่วนใหญ่ชอบรสชาติหวานของเป๊ปซี่มากกว่า โค้กก็อุตส่าห์ปรับน้ำตัวเองให้หวานขึ้นแล้ว กลับผิดพลาดอีกได้อย่างไร ?!!


เหตุผลคืออย่างนี้ครับ ...

คำว่า Sip Test นั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าเป็นการ "ชิม" ("Sip" แปลว่า "ชิม") เวลาให้กลุ่มตัวอย่างลอง เขาก็ได้แค่ "ชิม" ได้แค่ "จิบ" คนละนิดหน่อย ซึ่งด้วยธรรมชาติของลิ้นคนเรา มักจะถูกดึงดูดได้ง่ายกว่า ด้วยรส "หวาน"

ด้วยเหตุนี้ คนที่ได้ลอง จึงบอกว่าชอบถ้วยที่เป็น "เป๊ปซี่" ไม่ใช่ "โค้ก" ทั้งที่จริงๆ แล้ว หากให้ดื่มจนหมดกระป๋องหรือหมดขวด สิ่งที่ผู้คนจะชื่นชอบ หาใช่รสชาติหวานของเป๊ปซี่ไม่ ...

มันคือรสหนักแน่นๆ ซ่าส์สะใจ ของ "โค้กเดิม" นั่นแหล่ะ ที่เขาจะเลือกกินเสมอ!!

ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ชอบดื่มน้ำอัดลม แท้จริงแล้วเขาชอบ "โค้ก" มากกว่าเยอะ เป็นเพราะรสชาติที่ "ซ่าส์" ไม่หวานเกิน กินแล้วไม่ "เอียน" ง่าย และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยอดขายของโค้ก "เหนือ" เป๊ปซี่มาตลอด

แต่อยู่มาวันหนึ่ง เพียงเพราะโฆษณาจี้เส้น "โค้ก" ถึงกับลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ทิ้ง "จุดแข็ง" ทีตัวเองมี เพื่อหวังจะให้ผู้บริโภคชอบ หมายมั่นจะเอาชนะ "เป๊ปซี่" ให้ได้

ผลลัพธ์ที่ได้ จึงกลายเป็นความ "ล้มเหลว" ไม่เป็นท่า!!

หลังจากรู้ว่าฟีดแบ็คย่ำแย่ โรเบอร์โต้ กอยซูเอต้า CEO ที่ว่ากันว่าเป็นสุดยอด CEO คนหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกัน จึงยกเลิก "New Coke" ทั้งหมด และเข็นเอา "โค้กเก่า" กลับสู่ตลาด

เป็น "โค้กเดิม" ที่คนเขาเคยคุ้นเคย แต่เพราะกลัวคนไม่เชื่อ จึงต้องพ่วงคำต่อท้ายแบรนด์ไปว่า นี่คือ "โค้ก คลาสสิค" (Coke Classic) มันคือ "โค้กรสเก่า" ที่คุณๆ ไว้ใจนั่นเอง

อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรครับ?


หลายครั้งหลายหน คนเราถูกกระแสในสังคมพัดพา จน "ลืม" ว่าตัวเรามีดีอะไร

"กระแสสังคม" นี่น่ากลัว บางครั้งมันพัดแรงยิ่งกว่าลมพายุ ธรรมชาติของลมพายุนั้น พัดมารุนแรงแค่ไหน ไม่นานมันก็ยังหยุด แต่ "กระแสสังคม" รอบตัวเรานี้ บางช่วงเวลา มันพัดพุ่งใส่เราทุกวัน ยังไงก็ไม่ยอมหยุด

ใครไม่แกร่งพอ โดนกดดันมากๆ เข้า ก็ยอมลอยไปตามลม กลัวคนเขาไม่รัก หรือไม่ก็เพราะอยากได้เงิน ถ้าไม่ทำยังงี้ ไม่พูดยังงั้น กลัวคนเขาจะไม่นิยม กลัวงานจะไม่เข้า

ก่อนที่ท่านจะ "เปลี่ยนตัวเอง" เพื่อใคร ขอให้หยุดสักนิด แล้วถามเข้าไปในใจเราว่า อะไรทำให้เรามายืนตรงที่เรายืนอยู่ทุกวันนี้? สิ่งใดทำให้ตัวเรามีค่า มีความหมายที่จะเป็นตัวเอง?

และมัน "คุ้มกันหรือไม่" ที่จะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้น เพียงเพื่อจะเป็นใครสักคนที่คนอื่นชอบ หรือเพื่อเงินทองที่เราจะหาอีกเท่าไรก็ได้ในชีวิต?!!


ไม่ได้บอกว่าคนเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ครับ อะไรไม่ดี เปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี? ดูอย่างโค้กสิครับ มั่นใจว่าดีแล้ว ทดสอบก็แล้ว ยังพลาดได้ ถามว่าทำไมพลาด ก็เพราะวัดกัน "แป๊บเดียว" ไม่ได้วัดกัน "ยาวๆ"

ดังนั้น ถ้าท่านตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร ขอให้มั่นใจเสียก่อนว่า ท่านไม่ได้กำลังทำผิดแบบที่ "โค้ก" เคยผิดมาแล้ว ไม่ได้กำลังจะทิ้ง "เอกลักษณ์" หรือ "จุดแข็ง" ที่มี เพียงเพื่อเป็น "คนดี" ของใคร

คนบางคนที่ผมรู้จัก พูดจาเข้าที หน้าตาดี ลองได้ฟังเขาพูดไม่นานก็เคลิ้ม เป็นอ้อยตาลที่หวานลิ้น แต่กินไม่นานก็สิ้นซาก เอาเข้าจริงทำอะไรไม่เป็นเลย มารู้ทีหลังว่ามันดีแต่พูด

ถ้าเป็นตัวผม ให้เลือกได้ ผมขอเลือกเป็นคนแบบ "โค้ก" ดีกว่า สัมผัสเพียงแว้บแรกอาจจะงั้นๆ ไม่เนี้ยบ ไม่เลิศหรู ไม่ติดใจ แต่กินได้นานๆ ไม่เบื่อ หรือถ้าจะเลือกผู้หญิงสักคน สู้เลือกคนที่หน้าตาดีระดับโอเค ไม่ต้องเด่นเลิศเลอขนาดอั้มหรือนุ่น แต่ดูแลเราได้ ทำกับข้าวเป็น คบแล้วสบายใจกว่าเป็นไหนๆ

อย่าลืมนะครับ อย่าเปลี่ยนตัวเอง
 
http://cheechud.blogspot.com/2010_08_01_archive.html

บ้านกางมุ้ง



บ้านกางมุ้ง หัวหิน หมู่บ้านตะเกียบ เรือนไม้ 2 ชั้น หลังใหญ่สีขาว ในรูปแบบดั้งเดิม ประกอบด้วย 9 ห้องนอน ได้รับการออกแบบและตกแต่งแบบร่วมสมัย เพื่อความสะดวกสบาย เป็นกันเอง ตั้งอยู่ในหมู่บ้านตะเกียบ ที่มีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลใส บนความยาวของชายหาดหัวหินที่ทอดตัวโค้งเป็นระยะประมาณ 4 กิโลเมตร ตัวอาคารที่พักมีทางเดินลงทะเล ห่างจากชายหาดเพียงแค่ 40 เมตรเท่านั้น
บ้านกางมุ้ง หัวหิน ออน เดอะ บีช ตั้งอยู่ริมทะเล ชายหาดตะเกียบ หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสงบ ลมพัดเย็นสบาย คุณสามารถสัมผัสทะเลสวยของชายหาดหัวหินได้เต็มตา ทั้งวัน ทั้งคืน
บ้านกางมุ้ง หมู่บ้านตะเกียบ และบ้านกางมุ้ง ออน เดอะ บีช ด้วยบรรยากาศ โคโลเนียล แบบร่วมสมัยที่มีพื้นที่รับรองส่วนกลางโล่งสบาย รวมทั้งระเบียงโปร่ง นั่งสบาย การออกแบบตกแต่งภายในห้องพัก สบายตา สอดคล้องและกลมกลืนกับบรรยากาศทะเลให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ท่านสามารถรับประทานอาหารเช้า พร้อมจิบกาแฟ คลอเสียงเพลงแจ๊ส เบาๆ จิบไวน์สักแก้วก่อนรับประทานอาหารกลางวันหรือมื้อค่ำ พร้อมบริการเครื่องดื่มคอกเทล และของขบเคี้ยว ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ด้วยบริการที่เป็๋นกันเองและอบอุ่น
บ้านกางมุ้ง หมู่บ้านตะเกียบ และบ้านกางมุ้ง ออน เดอะ บีช รอคอยท่านเพื่อมาพบการพักผ่อนที่เรียบง่าย ความสงบที่แท้จริง ความสนุกสนาน และชีวิตชีวาของเมืองหัวหิน

http://www.baankangmungresort.com/